top of page

สถาบันคลังปัญญาฯ นำคณะวิจัยจาก ม. CAU เมืองปักกิ่ง ลงพื้นที่ศึกษาดูงานการพัฒนาเด็กและผู้สูงอายุไทยในเขตเมือง เมืองหนองป่าครั่ง จ.เชียงใหม่

klangpanyath

อัปเดตเมื่อ 29 ธ.ค. 2567




สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ นำโดย ดร. ยุวดี คาดการณ์ไกล ผู้อำนวยการสถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ  ร่วมกับ ผศ.ดร. Li Yuqing อาจารย์ Institute for International and Area Studies มหาวิทยาลัยชิงหวา ได้นำคณะวิจัยจาก College of Humanities and Development , China Agricultural University จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งนำโดย ศาสตราจารย์ Zuo Ting,รองคณบดี College of Humanities and Development,พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ Yu Lerong และรองศาสตราจารย์ Kuang Zongren ซึ่งมีความสนใจศึกษาบทบาทของท้องถิ่นในการพัฒนา ส่งเสริมและดูแลเด็กและผู้สูงอายุในชุมชนเมืองของไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและเรียนรู้นำไปต่อยอดขยายผลการพัฒนาผู้สูงอายุในจีน





       ทางสถาบันคลังปัญญาฯ ได้พาคณะวิจัยจาก CAU ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะท้องถิ่นที่เป็นต้นแบบของการดูแลผู้สูงอายุ ในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ณ โรงพยาบาลเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง จ.เชียงใหม่ โดยมี คุณเสาวนีย์ คำปวน

ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งเเวดล้อม เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง ให้การต้อนรับ และให้ข้อมูลบทบาทของท้องถิ่นในการพัฒนาเด็กและผู้สูงอายุในเขตเมือง


เมืองหนองป่าครั่ง ภายใต้การบริหารของเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 10 กิโลเมตร ทำให้เมืองนี้ได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วของนครเชียงใหม่ มีการก่อสร้างหอพัก ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลเอกชน และการเข้ามาของแรงงานแฝงในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จากการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านทุกหลังคาเรือนของเจ้าหน้าที่เทศบาลพบว่า เมืองหนองป่าครั่งประสบปัญหาสังคมหลายด้าน เช่น มีผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการขาดผู้ดูแลในช่วงกลางวัน เด็กแรกเกิดที่อยู่ในความดูแลของผู้สูงอายุและเด็กจำนวนมากไม่ได้รับการพัฒนาที่เหมาะสมกับวัยเท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้ เทศบาลตำบลหนองป่าครั่งจึงได้ตระหนักว่า “หากคนไม่เจ็บ ก็จะไม่จน” จึงกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ของเทศบาลว่า “ประชาชนมั่งคั่ง หนองป่าครั่งมั่นคง” เป็นหลักการสำคัญในการพัฒนาเมือง โดยเน้นด้านการทำมาหากินในพื้นที่ ให้คนเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสอย่างเป็นธรรม และการพัฒนาคนในเมืองให้ได้รับการดูแลอย่างถ้วนหน้า





          แนวทางการพัฒนาเมืองสุขภาวะของเทศบาลตำบลหนองป่าครั่งได้ถูกขับเคลื่อนผ่านการทำงานเชิงรุก 3 ด้าน ได้แก่  1. นโยบายด้านสาธารณสุข ผ่านโครงการปรับระบบริการสุขภาพเป็นสวัสดิการชุมชนรองรับวิถีชีวิตแบบเมืองในรูปแบบใหม่  2. นโยบายด้านการส่งเสริมอาชีพ ผ่านโครงการวิสาหกิจชุมชนนวดแผนไทย และ 3. นโยบายด้านสังคมสงเคราะห์ ผ่านโครงการศูนย์เจริญวัยเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง

          ท้ายที่สุดแล้ว เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง ทำให้เห็นว่าบทบาทของท้องถิ่นไทยมีศักยภาพในการจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านบริการรักษาพยาบาลอย่างครอบคลุมและเป็นมืออาชีพได้ เพื่อทำให้คนในท้องถิ่นรู้สึกไม่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง อีกทั้งท้องถิ่นยังสามารถแสดงบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาทักษะแรงงานได้อีกด้วย  





ทางคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัย CAU ได้แลกเปลี่ยนว่ารู้สึกประทับใจความทุ่มเทในการทำงานของเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหนองป่าครั่งในการพัฒนาสวัสดิการดูแลคนในเมืองมานานหลายสิบปี ซึ่งแนวคิดการพัฒนาสวัสดิการสังคมมีความคล้ายกับจีนในฐานะประเทศที่ยึดแนวทางคอมมิวนิสต์ ที่เน้นสังคมนิยม รัฐสวัสดิการ แต่ในระดับท้องถิ่นและชนบทก็ยังมีช่องว่างการจัดสวัสิดการดูแลคนเมืองและชนบท ซึ่งการบริหารจัดการของเมืองหนองป่าครั่ง ทั้งการดูแลเด็กแรกเกิด การดูแลผู้สูงอายุ การสร้างอาชีพและส่งเสริมกลุ่มหมอนวด ทั้งหมดนี้ใช้เจ้าหน้าที่และงบประมาณที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับคนในเมือง สิ่งเหล่านี้เปฺ็นสิ่งที่จีนควรเรียนรู้จากไทย






 

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


คลังปัญญา

สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ

STAY CONNECTED

GET IN TOUCH

220/104 เลควิวคอนโด อาคารสุพีเรียร์ เมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

101/104 หมู่ที่ 8 ถนนติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120


Tel:  084-112-0632

klangpanya.th@gmail.com

© 2023 by Ridgeview Middle School. Proudly created with Wix.com

bottom of page